” ได้ สั ม ผั ส แล้วถึงรู้ “
วันนี้…ผมขึ้นต้นบทความดูเหมือนไม่เกี่ยวอะไรกับงาน ส ถ า ปั ต ย ก ร ร ม เลยนะครับ
แต่มีที่มา ก้อ คือ …
จุดเกิดก็คือ ผมได้ไปสัมผัสการเป็นอยู่ของเด็ก ๆพิการ
ที่ มู ล นิ ธิ คริสเตียนเพื่อเด็กพิการ
เด็กๆ พิการผู้ชาย 15 คน บางคนนั่งรถเข็น บางคนพอการทางสมอง อยู่รวมกันในบ้านทาวเฮาส์
3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ฟังดูน่าลำบากใช่มั้ยครับ
#ภาระใจ ของผมเกิดขึ้นเมื่อผมรับรู้ความเป็นอยู่แบบนั้น
ประจวบกับที่ทางมูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ
ประกาศหาผู้สถาปนิกออกแบบอาคารที่พักสำหรับเด็กพิการชาย
.
>ในวันที่ผมเข้าไปคุย ผมก็เพิ่งได้ข้อมูลมาว่า
อาคารหลังนี้เคยออกแบบมาแล้ว2 รอบ นั่นเท่ากับว่ามีแบบอาคารอยู่แล้ว2แบบ แต่ยังไม่เหมาะกับการใช้งาน หรือบางเหตุผล
..
ผมได้รับการพิจารณาให้เข้าไปเสนอแบบอาคารที่พัก
>วันที่ผมเข้าไปที่นั่น เด็กๆวิ่งเข้ามา ก อ ด ผม “พี่บอยจำผมได้ไม๊ ? “
“อ้อ จำได้ซิ “ ความจริงคือ ผมจำเค้าไม่ได้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเค้าชื่ออะไร ?
เหตุการณ์ครั้งนี้ สอนผมว่า
“ เราลืมอะไรไปรึเปล่า ! “ ถ้าเค้าเป็นลูกหลานของเราจริงๆหล่ะ
#บางคนทั้งพิการและกำพร้า
.
เด็กรู้ว่า…ผมคือคนที่จะมาออกแบบบ้านให้กับพวกเค้า
•หัวใจผม พ อ ง โตขึ้นมาทันทีครับ ^
..
น้องๆมอบ ค ว า ม รั ก ให้กับผมก่อนที่ผมจะให้กับพวกเค้าด้วยซ้ำ
ผมกลับมาทำงานชิ้นนี้ต่อ ด้วย หั ว ใ จ และ ค ว า ม รั ก
เก็บเอาความหวัง ค ว า ม สุ ข ของเด็กๆมาอยู่ในงาน
.
การนำเสนอแบบร่างครั้งที่ 1 พาเอาทุกคนHappy
ผมเองก็ Happy
และเตรียมกลับมาพัฒนา แ บ บ ให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
..
ช่วงเวลานี้ ผมเกิดคำถามในใจว่า
“ เรา มั ว ไปอยู่ไหนมาว๊ะเนี่ย ! “
เรายังมีอะไรอีกเยอะแยะมากมายที่จะช่วยน้อยๆเหล่านี้
เ ร า ที่ผมหมายถึงก้อคือ คุณ และ ผม ครับ
เ ร า ที่มีโอกาสที่จะช่วยเหลือเด็กๆเหล่านี้ได้ มากกว่าแค่การรับรู้
งานนี้เป็นงานอีกชิ้นที่ผมอยากเห็นเสร็จสมบูรณ์เร็วๆ
เพราะผมอดไม่ได้ที่อยากจะเห็น ร อ ย ยิ้ ม และ ค ว า ม สุ ข
ของพวก เ ค้ า ^
#มูลนิธิคริสเตียนเพื่อเด็กพิการ