คุณคงคิดว่า สถาปัตยกรรม เป็นการออกแบบก่อสร้างสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งก่อสร้างสำหรับการอยู่อาศัย เช่น บ้าน อาคาร คอนโด โรงแรม เป็นต้น ล้วนต้องมีการวางแผนผังกำหนดของบริเวณต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สร้างความพึงพอใจกับผู้คนที่พบเห็น สถาปัตยกรรมนับเป็นแหล่งรวมของงานศิลปะแทบทุกชนิด สถาปัตยกรรมมักจะเห็นเด่นชัดตรงที่โรงแรมโดยมักจะแสดงถึงเอกลักษณ์จุดเด่นอารยธรรมของโรงแรมและที่อยู่อาศัยในช่วงนั้น ๆ
หากคุณจะไปพักผ่อนที่โรงแรมไหน ส่วนใหญ่คุณจะมองไปถึงด้านการบริการห้องพัก อาหาร รวมไปถึงราคาที่พัก แต่เชื่อเถอะส่วนใหญ่คุณจะต้องนึกถึงการออกแบบโรงแรม สไตล์การออกแบบสถาปัตยกรรมแบบไหน โครงสร้างโรงแรมเป็นอย่างไร โรงแรมแห่งนี้มีประวัติเรื่องราวโรงแรมอย่างไร ทำให้เกิดมนต์เสน่ห์น่าหลงใหล เพราะสถาปัตยกรรมแต่ละโรงแรมมีความแตกต่างไม่เหมือนกัน
โรงแรมในประเทศไทยมีหลายสไตล์ให้เลือกรูปแบบ เช่นอาคาร ClassicStyle หรือศิลปะแบบคลาสสิกสมัยใหม่ ที่มีความดูดี มีความเป็นผู้ดี ดูมีระดับ และการตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ มีกลิ่นอายประวัติศาสตร์ที่ตกแต่งอย่างเรียบหรูสวยงามผสมผสานอย่างลงตัว เริ่มเช็กอินไปพักผ่อนพร้อมเอนกายลงนอนได้เลย
1. The Mustang Blu
โรงแรมที่มีอาคารขนาด 900 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น ยุคสมัยโคโลเนียลอายุร่วม 100 ปี แปลนเป็นทรงสามเหลี่ยม ห้องโถงฉายบุคลิกของ The Mustang Blu พื้นไม้ปูใหม่ทั้งหมด พื้นผิวร่อนลอกของเพดานและผนัง ประตูตู้เซฟจากสมัยเป็นธนาคารที่ยังใช้งานได้ เฟอร์นิเจอร์วินเทจ ต้นไม้เขตร้อนชื้น
The Mustang Blu มีห้องพัก 2 ขนาด คือ 60 ตารางเมตร และ 30 ตารางเมตร มี 2 ห้อง ที่มีระเบียงยื่นออกฝั่งถนน หันเข้าชุมชนไทย-จีนย่านเยาวราช คือห้อง 301 และ 302 และด้วยแปลนอาคารที่เป็นสามเหลี่ยม
เมื่อคุณได้เข้าพักใน The Mustang Blu จะพาให้คุณเข้าไปสัมผัสถึงมิวเซียมที่มีพวกโครงสัตว์ หรือมีการทดลองอะไรสักอย่าง และมู้ดโทนของสีจะเป็นสไตล์คิวบา ทุกห้องพักมักจะไล่สีขาว ดำ เป็นเบส ใช้สีธรรมชาติของไม้ เหลืองมัสตาร์ด น้ำเงินทึบ ทองเหลือง ทำให้คุณได้สัมผัสถึงธรรมชาติที่รวมเข้ากับสมัยโคโลเนียลอย่างลงตัว ทำให้คุณอยากสร้างบ้านสไตล์โคโลเนียล ทาสีโทนเข้ม หรือสีพาสเทล ตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ ที่เน้นรูปทรงคลาสสิก
2. Villa Maroc Resort
เป็นอีกโรงแรมที่ตั้งอยู่ริมทะเลปราณบุรี ถ้าขับรถจากกรุงเทพใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมง แถมที่พักติดกับริมทะเล ตัวของโรงแรม มีห้องทั้งหมด 6 แบบ รวม 15 ห้อง เป็นสถาปัตยกรรมแบบ Moroccan Style ผสมผสานศิลปะหลากหลาย ทั้งศิลปะแบบมุสลิม ผสมผสานกับรูปแบบของฝรั่งเศส สเปน แอฟริกัน และเปอร์เซียน ที่ไม่นิยมความเรียบหรือว่างเปล่า ชอบรายละเอียดเยอะ ๆ Texture เยอะ ๆ เน้นประดับลวดลายด้วยงานที่ต้องใช้ฝีมือและทักษะสูงพิถีพิถัน ให้เหมือนอยู่ต่างแดน
Villa Maroc Resort อาจทำให้คุณนึกถึงบรรยากาศสไตล์โมร็อกโก เพราะตัวโรงแรมได้เน้นไปทางโทนสีเหลือง น้ำตาล เป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญตัวของโรงแรมได้หันหน้าทางริมทะเล มีแสงแดด เห็นท้องฟ้ากว้าง ๆ ทำให้คุณได้ซึมซับบรรยากาศชิว ๆ ได้อย่างเต็มปอด ทำให้คุณนึกถึงบ้านของคุณ ถ้าบ้านมีสไตล์โมร็อกโก จะเน้นไปทางแบบศิลปะ ผสมผสานลวดลายของฝรั่งเศส แอฟริกัน และเปอร์เซียน ที่จะเน้นไปทางรายละเอียดที่มากจนทำให้คุณต้องหาเวลาออกแบบเลยทีเดียว
3. The Ryad Rayong
The Ryad Rayong โรงแรมที่สร้างสรรค์ที่พักแบบกลิ่นอายอาระเบียน การจัดมุมมองการวางของต่าง ๆ ที่ประณีต เป็นงานคราฟต์ที่ต้องใช้ความละเอียดและทักษะพื้นฐานทางศิลปะหลากหลายจุดในการสร้างความงามให้ปรากฏบนเครื่องประดับ โดยผนวกกับงานดีไซน์รูปแบบใหม่ ๆ เลือกใช้วัสดุแปลก ๆ ลูกปัดไม้ มุก และปะการังจากฟาร์มที่เลี้ยงเฉพาะ ไม่ทำลายธรรมชาติ พลอยสีแบบแปลกตา เปี่ยมกลิ่นอายตะวันออกโมเดิร์น และตะวันตกวินเทจยุคอาร์ตเดโค สถาปัตยกรรมแบบโมร็อกโก เป็นศิลปะตกแต่งผนัง หลังคารูปโดม ประตูโค้ง ใช้สีสด ๆ พวกโทนสีส้ม
The Ryad Rayong มีทั้งหมด 11 ห้อง 5 แบบ โดยมีแนวคิดเป็นบ้านพ่อค้าขายของ โดยห้องพัก มีตั่งนอนเอกเขนกกว้างสบายถูกบรรจุไว้ในห้องพักทุกแบบตามทรวดทรงของห้องอย่างน่าทึ่ง
จุดเด่นที่จะทำให้คุณตื่นเต้นไปกับบรรยากาศตะวันออก สถาปัตยกรรมที่มีศิลปะตกแต่งผนังลวดลายอย่างเต็มตา โดยทางโรงแรมจะเน้นไปทางธรรมเนียมโมร็อกโก ทำให้คุณอยากมีบ้านสไตล์โมร็อกโก ที่มีกลิ่นชามินต์หอมหวนไปทั่วบ้านยามเช้า แบบ The Ryad Rayong กันทีเดียว
4. Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok
การเปิดตัวโรงแรมที่ยิ่งใหญ่กลางกรุงเทพ ที่นำความสดชื่นของแมกไม้นานาพันธุ์เขียวขจี รวมทั้งพันธุ์ไม้ใหญ่หายากกว่า 100 สายพันธุ์ ไม่รวมพันธุ์ไม้อื่น ๆ อีกนับ 1,000 ต้นรายรอบอาคาร ด้วยตัวอาคารสูงทั้งสองหลัง อยู่ในพื้นที่สีเขียว เรียกว่า ซุปเปอร์กรีน การออกแบบของอาคารให้สอดคล้องกับพื้นที่สีเขียว เพื่อสร้างเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ โดดเด่นโดยระเบียงที่มองเห็นวิวสวน รูปทรงลูกคลื่นของอาคารสร้างไดนามิกที่หลากหลายให้กับชั้นล่าง ส่วนอุโมงค์ขนาดใหญ่ที่ชั้นล่างมีลักษณะเป็นอุโมงค์คอนกรีตเปิดโล่ง ทำหน้าที่เป็นพื้นที่ตอนรับแยกจากภายนอก
ขอบอกเลยว่าคุณจะต้องตกใจกับการออกแบบสถาปัตยกรรมที่เน้นไปถึงความ Luxury และที่สำคัญคือการรวบรวมต้นไม้พันธุ์ไม้มาผสมผสานอย่างลงตัวโดยคงกลิ่นอายการรักษ์โลกแบบ Kempinski ทำให้คุณอยากมีบ้านสักหลังที่คงกลิ่นอายรักธรรมชาติ ตลบอบอวลไปด้วยกลิ่น Lavender Chamomile เหมือน Sindhorn Kempinski Hotel Bangkok แถมมีโครงสร้างสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นถ้ามีการออกแบบสถาปัตยกรรมนี้ไว้ที่บ้านคงดีที่เดียว
5. Mandarin Oriental, Bangkok
Mandarin Oriental, Bangkok เป็นโรงแรมที่เปิดตัวในปี 2511 ตัวอาคารมีสีขาว โรงแรม Mandarin Oriental, Bangkok ถือว่าเป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อน เพราะความหรูหราที่มีชื่อเสียงด้านการพักผ่อนและด้านธุรกิจ โดยสถาปัตยกรรมและโครงสร้างของโรงแรมออกแบบ ที่ปีกอาคาร (Princess wing) โดยโรงแรมแบ่งออกเป็นสองส่วน คือ the Mandarin original และ Princess wing ทางโรงแรมได้สร้างความอบอุ่นและจริงใจกว่า 45 ปี
คำว่า Princess wing ต้องนึกถึงปีกนางฟ้า ปีกสีขาว ตึกที่มีสีขาวสะอาดตาดูแล้วเพลินใจ แถมมีสถาปัตยกรรมแบบ “นีโอคลาสสิก” ที่มีการทำผนังกระจกให้มีลวดลายดอกไม้ กระจกบานใหญ่หนึ่งบานในกรอบปิดทองจะเพิ่มความโปร่งโล่งให้กับห้อง ทำให้คุณต้องนึกถึงบ้านของคุณในขณะเดียวกันก็อย่างจะมีบ้านสไตล์นีโอคลาสสิก ที่เน้นไปทางความโล่งตา สบายใจ เมื่อทำงานมาเหนื่อย อยากจะกลับมาเอนกายลงนอนได้ตลอดเวลา
6. เกศรา บูทิก ฮิสทอริก โฮเต็ล (Kesara Boutique Historic Hotel)
สถานที่ที่มีเสน่ห์และอบอุ่นเป็นกันเองใจกลางย่านธุรกิจของกรุงเทพฯ ที่คุณจะได้พบกับบรรยากาศที่สวยงามที่สุดที่นี่ โรงแรมสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2459 ของครอบครัวหลวงบุรีราช บำรุง และเพิ่งปรับปรุงเสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2561
ด้านที่พักโรงแรมมีรูปแบบสถาปัตยกรรมแบบ Gingerbread Style ความพิเศษสุด คือ วัสดุทั้งหมดของบ้านนี้คือไม้สักเก่าแท้ ๆ และของโบราณแท้ ๆ ทุกตารางนิ้วของบ้านหลังนี้มีการทำซ้ำอย่างประณีตทีละชิ้นเพื่อให้แน่ใจว่าคุณเก็บรายละเอียดที่คลาสสิกทั้งหมดไว้ โดยคอนเซปต์ของการออกแบบ คือความเป็นธรรมชาติเหมือนนอนพักที่บ้านเพื่อน มีความอบอุ่น แต่ไม่ได้เป็นทางการมากจนเกินไป
Kesara Boutique Historic Hotel เป็นโรงแรมที่เน้นบรรยากาศความเก่า ด้วยโครงสร้างบ้านแบบ ขนมปังขิง และยังได้ใช้ เฟอร์นิเจอร์แบบโบราณที่ผสมผสานกับความสะดวกสบายแบบสมัยใหม่ ได้อย่างลงตัว
ถ้าคุณอยากได้บ้านที่มีความคลาสสิกของความเก่า ผสมกับความทันสมัย บ้านแบบขนมปังขิง ถือเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่น่าสนใจเลยทีเดียว
7. อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ โฮเทล (Amdaeng Bangkok Riverside Hotel)
อำแดง บางกอก ริเวอร์ไซด์ (Amdaeng Bangkok Riverside) จากแรงบันดาลใจเมื่อครั้งไปพักโรงแรมในเมืองปักกิ่งของเจ้าของโรงแรมนี้ ที่ต้องเดินเข้าไปตามตรอกซอยของชุมชนเก่าแก่ จะไปถึงยังจุดหมายที่พัก จึงเป็นที่มาของอาคารสีแดงริมแม่น้ำเจ้าพระยาแห่งนี้ อีกสิ่งหนึ่งที่หากไม่พูดถึงคงไม่ได้ อำแดงคืออะไร? เกี่ยวข้องอะไรกับสีแดงหรือเปล่า เหตุผลที่ชื่ออำแดง มาจาก เจ้าของเดิมของโฉนดที่ดินพื้นนี้มีชื่อว่า “อำแดงคลี่” ซึ่งคำว่าอำแดงเป็นคำขึ้นต้นชื่อผู้หญิงในสมัยก่อน คล้ายคำว่านาง หรือนางสาว นั้นเอง เมื่อได้โฉนดที่ดินพื้นนี้มาทางเจ้าของจึงตั้งใจใช้คำว่าอำแดง
องค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมหลักทั้งหมดภายในและภายนอกเป็นสีแดงสด: เสา คาน พื้น ผนัง เพดาน เพื่อให้มองจากอีกฟากหนึ่งของแม่น้ำได้อย่างชัดเจนจากสภาพแวดล้อมโดยรอบ เปิดออกเผยให้เห็นอาคารสีแดงที่ดูเหมือนประกอบจากประติมากรรมที่แยกจากกันรวมกันจนกลายเป็นรูปแบบที่ยิ่งใหญ่อย่างหนึ่งที่สถาปนิกจินตนาการถึงผู้คนที่อาศัยอยู่ การตกแต่งห้องพักแสดงให้เห็นการผสมผสานสไตล์ที่สะท้อนความเป็นไทยและวัฒนธรรมอื่น ๆ จีน ยุโรป อินเดีย เพื่อระลึกถึงยุคก่อน ๆ ที่วัฒนธรรมที่โดดเด่นผสมกันในรูปแบบการก่อสร้าง
หากคุณชื่นชอบในกลิ่นอายรักโรแมนติก ลองทาสีบ้านโดยใช้โทนสีแดง สีที่เพิ่มความโรแมนติก ตัดกับสีดำของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ห้องดูหรูหราขึ้นมาอีกด้วย
8. Ping Nakara Boutique Hotel & Spa
จังหวัดเชียงใหม่ถือได้ว่าเป็นจุดศูนย์กลางของภาคเหนือตอนบน เพราะมีธรรมชาติที่สวย ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญบรรยากาศที่ผ่อนคลายของเมืองเชียงใหม่ก็น่าหลงใหล และมีโรงแรมที่เป็นจุดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่ คือ โรงแรม Ping Nakara Boutique Hotel & Spa เพราะตัวโรงแรมมีการออกแบบสถาปัตยกรรมสไตล์โคโลเนียลที่หรูหรา สถาปัตยกรรมแบบ Gingerbread Style ซึ่งมีลักษณะเด่นของการประดับตกแต่งด้วยลวดลายไม้ฉลุต่าง ๆ ทั้งบริเวณหน้าจั่ว ชายคา ค้ำยัน ช่องลม โดยเฉพาะโครงสร้างสถาปัตยกรรม ลวดลายตกแต่งอาคารแบบวิคตอเรียน (Victorian Style) ในประเทศอังกฤษ จุดเด่นที่สำคัญโรงแรมคงหนีไม่พ้นความเงียบสงบของเฉลียงข้างสระว่ายน้ำ สร้างความเพลิดเพลินไปกับการพักผ่อนหย่อนใจไปกับดินแดนล้านนาแห่งนี้
หากคุณหลงรักในความงดงามอ่อนหวานของศิลปะสไตล์โคโลเนียล และความอ่อนช้อยของวัฒนธรรมล้านนา จนอยากที่จะได้บ้านสไตล์นี้ ให้ออกแบบโครงสร้างบ้านด้วยสถาปัตยกรรมแบบขนมปังขิงสีขาว ประดับตกแต่งด้วยลวดลายฉลุในแบบฉบับล้านนา เฟอร์นิเจอร์ไม้ หวาย และเบาะผ้าเป็นหลัก จะดูอบอุ่น และงดงามเหมือนภาพในอดีตมาซ้อนทับกับสมัยปัจจุบันเลย
9. Away Chiang Mai Thapae – A Vegan Retreat
Away Chiang Mai Thapae Resort จัดการพักผ่อนแบบมังสวิรัติที่ทำให้คุณดื่มด่ำกับโลกแห่งความสุขในวันหยุด โรงแรม Away Chiang Mai Thapae Resort ตกแต่งด้วยพื้นไม้สีเข้ม ระเบียงลูกกรงสีขาว และรายละเอียดหลังคาที่เป็นเอกลักษณ์ สถาปัตยกรรมและการออกแบบของรีสอร์ทที่มีลักษณะเด่นในยุคอาณานิคม กับบรรยากาศการออกแบบโคโลเนียลที่สวยงามและทำเลใจกลางเมืองที่เงียบสงบ ที่ผสมผสานกับวัฒนธรรมล้านนาซึ่งโดดเด่นในภาคเหนือของประเทศไทย โดยการเดินทางมายังโรงแรมจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งใช้เวลาขับรถเพียง 30 นาทีเท่านั้น
เป็นโรงแรมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สงบนิ่ง เหมือนอยู่บ้าน ด้วยการสร้างสรรค์ความสวยจากนามธรรม มาเป็นเส้นสายคลื่นน้ำและน้ำตก ผสมผสานกับความหรูหราสไตล์โคโลเนียลโทนสีขาวฟ้าได้อย่างลงตัว
10. Truly unique boutique hotel in Chiang Mai
little shelter hotel ตั้งอยู่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่ทางด้านสถาปัตยกรรมท้องถิ่น little shelter hotel มีลักษณะโครงสร้างไม้ที่มีหลังคามุงด้วยไม้กรวด รูปทรงหลังคาโรงแรมได้รับแรงบันดาลใจจากหลังคาทรงฮิป traditional hip roofs เพื่อสร้างพื้นผิวสถาปัตยกรรมแบบร่วมสมัย Contemporary architecture ที่มีความหยั่งลึกถึงประเพณี
Little Shelter ยังใช้ไม้มุงหลังคาและผนังด้านข้างที่ซุ้มแม่น้ำ เป็นแผ่นโพลีคาร์บอเนตถูกตัดให้มีขนาดเท่ากับไม้มุงหลังคา และสร้างให้เป็นซุ้มโปร่งแสงทางสถาปัตยกรรม โดยช่วงกลางวัน แสงแดดจะส่องผ่านเข้าในอาคารที่ถูกเปลี่ยนเป็นแกลเลอรี่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากร่ม boh srang ที่มีชื่อเสียงของหัตถกรรมพื้นบ้าน
Little Shelter ไม่ได้เป็นเพียงที่สำหรับพักผ่อนเท่านั้น ยังเป็นการนำอดีต ปัจจุบัน และอนาคตของเชียงใหม่มาสู่ผู้มาเยือน
หากคุณชื่นชอบในแสงธรรมชาติ จนอยากที่นำมาเป็นบ้านของตัวเอง ให้นำแผ่นพอลีคาร์บอเนต มาใช้ในบริเวณหลังคาและผนัง ด้วยการกรุไล่จังหวะพร้อมกับไล่ระดับความโปร่งแสงของแผ่นโพลีคาร์บอเนต จะทำให้ภายในตัวบ้าน มีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตลอด ตามสีสันของท้องฟ้า ทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่น้อยเลย มาใช้ในบริเวณหลังคาและผนัง ด้วยการกรุไล่จังหวะพร้อมกับไล่ระดับความโปร่งแสงของแผ่นโพลีคาร์บอเนต จะทำให้ภายในตัวบ้าน มีบรรยากาศที่เปลี่ยนไปตลอด ตามสีสันของท้องฟ้า ทำให้ดูมีเสน่ห์ไม่น้อยเลย
11. รายา เฮอริเทจ (Raya Heritage)
รายา เฮอริเทจ (Raya Heritage) เป็นโรงแรมทางภาคเหนือในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิง รวบรวมวิถีชีวิตล้านนาในสมัยก่อน เข้ากับยุคปัจจุบัน สถาปัตยกรรม ภูมิทัศน์ และการออกแบบภายในอยู่ในรูปแบบ Contemporary architecture โดยมีความสงบเย็นสบาย วัฒนธรรม และกลิ่นอายร่วมสมัย โดยมีกระเบื้องดินเผา หน้าจั่วหลังคาทรงปั้นหยา เสาและคานไม้เนื้อแข็งสไตล์วินเทจ และฉากกระดาษหม่อนชวนให้นึกถึงการออกแบบสไตล์ไทยภาคเหนือแบบดั้งเดิม ในขณะที่เพดานสูงทำให้การตกแต่งภายในดูร่วมสมัยแบบ light contemporary ของแสงสว่าง การออกแบบของรีสอร์ทได้รวมเอาเฟอร์นิเจอร์ สิ่งประดิษฐ์ และเครื่องประดับที่คัดสรรมาอย่างสวยงามไม่ซ้ำใคร
ด้วยสไตล์โรงแรม รายา เฮอริเทจ เป็นโรงแรมที่ให้ความรู้สึกสะท้อนถึงความเป็นล้านนา มีการตกแต่งไปทางแนวย้อนยุค แต่ก็ซ่อนความทันสมัยด้วยเฟอร์นิเจอร์การตกแต่งทั้งหลาย ทำให้คุณคิดถึงบ้านที่ดูอบอุ่น มีกลิ่นอายร่วมสมัยเหมือนสมัยก่อน ทั้ง หน้าจั่วหลังคาทรงปั้นหยา เสาและคานไม้เนื้อแข็งสไตล์วินเทจ แต่ภายในตกแต่งด้วยความทันสมัย
12. พิลลาร์ เฮาส์ เชียงใหม่
137 pillars house เป็นโรงแรมบูติกขนาด 30 ห้อง ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำปิงของจังหวัดเชียงใหม่ มีการออกแบบ Sleek Modern design และสถาปัตยกรรมสะท้อนถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของล้านนาในยุคอาณานิคม ผ่านลวดลาย วัสดุก่อสร้าง และเทคนิคต่าง ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศให้น่าหลงใหล โดยมีสถาปัตยกรรมล้านนาโคโลเนียลและต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่บริเวณทางเข้าโรงแรม และสถาปัตยกรรมเก่าแก่สมัยศตวรรษที่ 19 โดยรอบใจกลางที่พัก 137 pillars house มีกำแพงสีเขียว 15 เมตร ซึ่งกำแพงสีเขียวขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นเป็นฉากกั้นแนวตั้ง ปกป้องทัศนียภาพภายในโรงแรม
137 pillars house เป็นอีก 1 โรงแรม ที่มีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก ทั้งการออกแบบ และการตกแต่ง ด้วยโรงแรมแห่งนี้จะแสดงถึงสถาปัตยกรรมสะท้อนถึงวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมของล้านนา ได้อย่างลงตัว มีการตกแต่งที่ทำให้คนเข้าพักได้รู้สึกได้ว่าการสื่อถึงอะไร ทำให้คุณนึกถึงบ้าน ในสไตล์นี้ ที่มีความปราณีตในการออกแบบ สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล ซึ่งเมื่อนึกถึงบ้านในสไตล์นี้ ก็จะนึกถึงสไตล์ล้านนาโคโลเนียล มีความเก่าแต่เก๋าในแบบของมัน
13. Siam Kempinski Hotel Bangkok
โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพ โรงแรมหรูสไตล์รีสอร์ทบนทำเลเป็นที่โดดเด่นใจกลางเมืองติดกับวังสระปทุม และศูนย์การค้าสยามพารากอน ซึ่งทางโรงแรมเป็นเครือของกลุ่มโรงแรมที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรป ซึ่งการตกแต่งแบบหลอมรวมของกลิ่นอายแบบยุโรปและไทยเข้าด้วยกัน มีการออกแบบสถาปัตยกรรมแบบ Contemporary architecture ที่เน้นด้านความหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน สร้างความสดชื่นในระหว่างการเข้าพัก
ซึ่งเป็นอีก 1 โรงแรมที่โดดเด่นในใจกลางเมือง ในเรื่องของความหรูหรา การอำนวยความสะดวกที่ครบจบในที่เดียว ทำให้คุณนึกถึงบ้านสไตล์ Modern Luxury ที่เป็นบ้านสไตล์หรูหรา เน้นความอลังการ ผสมผสานไปกับความทันสมัย เน้นพื้นที่ว่างให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เน้นโชว์ดีไซน์ทำให้บ้านดูสวยงามอลังการ
14. Toscana Valley เขาใหญ่ | นครราชสีมา
Toscana Valley เขาใหญ่ นครราชสีมา เป็นสถาปัตยกรรมทัสคานี Tuscan style เป็นสถาปัตยกรรมแบบชนบทสไตล์อิตาลี ได้รับแรงบันดาลใจมาจากสภาพแวดล้อมในธรรมชาติ โดย Toscana Valley ใส่ใจความสมบูรณ์ลงตัวของธรรมชาติและมีความใส่ใจในทุกรายละเอียด ทำให้องค์ประกอบส่วนต่าง ๆ ผสมผสานอย่างลงตัวในภูมิประเทศที่เป็นเนินเขาของหุบเขาทอสกานาเมืองไทย ซึ่งด้านทัศนียภาพที่ไม่มีใครเทียบได้ คุณภาพอากาศที่บริสุทธิ์ที่สุด โดยขนาดของวิลล่ามีตั้งแต่ 400 ถึง 2,000 ตารางเมตรบนพื้นที่หนึ่งไร่ขึ้นไป ภายนอกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยหินทราย ปูนฉาบสีและกระเบื้องหลังคาดินเผานำเข้า ทำให้นักท่องเที่ยวต่างมาเยี่ยมชมความสวยงามและซึมซับบรรยากาศ
Toscana Valley Khaoyai เป็นการออกแบบที่ เรียบหรู ในบรรยากาศชนบทตอนเหนืออิตาลี พร้อมกับบรรยากาศที่ดีสุดลูกหูลูกตา ทำให้คุณคิดถึงบ้าน สไตล์ชวนฝัน ที่เป็นบ้านสไตล์ทัสคานี สถาปัตยกรรมชนบทอิตาลี รูปทรงตัวบ้านเป็นทรงเรียบ ๆ แบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า บ้านสไตล์ทัศคานีได้รับอิทธิพลมาจากสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน ซึ่งมีความเรียบง่าย มีซุ้มโค้งภายในบ้านและนอกบ้าน การทาสีจะใช้โทนสีอ่อน ๆ เช่น เหลือง ครีม มีอิฐหรือหินเป็นส่วนประกอบของบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศความผ่อนคลาย ให้กับเจ้าของบ้านอย่างดี
15. Marrakesh Hua Hin Resort & Spa มาราเกซ หัวหิน รีสอร์ท & สปา
โรงแรม Marrakesh Hua Hin ได้รับการออกแบบในสไตล์เมดิเตอร์เรเนียน การออกแบบที่ผสมผสานระหว่างโมร็อกโกและองค์ประกอบที่ทันสมัยสไตล์โคโลเนียล การผสมผสานระหว่างแนวโค้งอันวิจิตรบรรจง สีสันที่ลึกและเข้ม เช่น กระเบื้องโมเสกระยิบระยับ สีสันสดใส (อิฐ-ส้มและน้ำเงินคราม) และผนังไม้แกะสลัก พื้นผิวและลวดลายที่ร้อนแรง และอุปกรณ์ตกแต่งอันเป็นเอกลักษณ์จากดินแดนอันห่างไกลของโมร็อกโก กับด้านความสะดวกสบายที่มีคุณภาพของที่พักริมทะเลที่ดีที่สุด
โดยโรงแรม Marrakesh Hua Hin รีสอร์ทแห่งนี้เมื่อคุณเข้าไปพักแล้วคุณจะนึกถึงบ้านที่ใช้เอกลักษณ์ที่ผสมผสานในการออกแบบสไตล์ Neo-Moroccan ที่ให้ทั้งความหรูหรา ทันสมัย สีสันสดใส และเต็มไปด้วยรายละเอียด ซึ่ง Marrakesh Hua Hin Resort & Spa สไตล์ Neo-Moroccan ดีไซน์ของห้องเลยเปิดกว้างที่จะผสานเอกลักษณ์แบบอาหรับเข้ากับสไตล์ใหม่ๆ ลวดลายและสีสันที่งดงามของโมร็อกโก มาราเกซ
16. ยูเขาใหญ่ : U Khao Yai – ที่พักเขาใหญ่
U Khao Yai โรงแรมที่มีกลิ่นอายและการตกแต่งแบบหมู่บ้านในฝรั่งเศส ที่มีต้นไม้ล้อมรอบโรงแรมและมี ทะเลสาบอยู่กลางพื้นที่โรงแรม ได้รับแรงบันดาลใจจากการออกแบบสไตล์ยุโรปอย่างแท้จริงโดยเฉพาะอย่างยิ่งความวิจิตรงดงามของสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสและอิตาลี ที่ทำให้นักท่องเที่ยวต้องมนต์สะกดเหมือนได้อยู่แวร์ซายอันงดงามของฝรั่งเศส
U Khao Yai ดีไซน์สวย บรรยากาศดี ในบรรยากาศแบบหมู่บ้านชนบทของฝรั่งเศส ด้วยดีไซน์ของตัวอาคาร ทำให้คุณคิดถึงบ้าน ในสไตล์โปรวองซ์ บ้านที่ให้บรรยากาศเหมือนพาคุณข้ามประเทศไปอยู่ชานเมืองฝรั่งเศส แต่เพิ่มความโดดเด่นเข้าไปอีก ไม่ให้เหมือนสไตล์ธรรมดา ๆ โดยการดีไซน์คล้ายปราสาทที่ฝรั่งเศส แบบนี้ก็ทำให้บ้านของคุณนั้นดูมีความหรูขึ้นมาได้อีกขั้น
17. Teakwood villa
Teakwood villa ซ่อนตัวอยู่บนพื้นที่ที่สวยงามที่กาญจนบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ เพียง 176 กม. เป็นวิลล่าสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ขนาด 700 ตร.ม. โรงแรมและที่พักหุ้มด้วยไม้สักทองเนื้อแข็งที่ออกแบบให้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ โดยเอกลักษณ์ Teakwood villa ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ กลิ่นอายและความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติของไม้ผสมผสานเข้ากับทิวทัศน์ในฝันที่นักออกแบบสร้างขึ้นมา ทำให้เป็นหนึ่งในบ้านพักอาศัยระดับไฮเอนด์
เมื่อคุณเข้าพัก Teakwood villa ฟีลเหมือนคุณนอนอยู่บ้านคุณแต่ได้บรรยากาศธรรมชาติเต็ม ๆ บริเวณรอบ ๆ ที่พักมีป่าไม้และธรรมชาติโอบกอดคุณ เติมพลังชีวิตให้คุณ อยู่ท่ามกลางต้นไม้อันเขียวขจี บ้านพักถูกออกแบบให้เข้ากับธรรมชาติอย่างกลมกลืน สำหรับใครที่มองหาอยากมีบ้านสไตล์ธรรมชาติแนะนำแนวนี้เลย เหมาะแก่การสร้างบ้านในฝันของคุณให้เป็นจริง
18. DusitD2 Khao Yai
DusitD2 Khao Yai ห่างจากกรุงเทพ ประมาณ 2 ชม. ทันทีที่คุณมาถึง DusitD2 คุณจะรู้สึกถึงความสงบทันทีที่คุณก้าวออกจากรถ ห้องพักและสระว่ายน้ำหันหน้าไปทางเนินเขาเขียวชอุ่ม มีสถาปัตยกรรมและการออกแบบของโรงแรมให้ความรู้สึกเหมือนพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย แบบ Modern architecture แถมคุณจะได้พบอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นหนึ่งในมรดกโลก จากภายในห้องพักของคุณอีกด้วย
ห้องพักของ DusitD2 Khao Yai เมื่อคุณเข้ามาพักทำให้คุณคิดถึงบ้านที่ดู สัมผัสบรรยากาศที่น่าหลงใหล มีการตกแต่งออกแบบให้เป็นแนวทันสมัยเอาใจคนรุ่นใหม่ ที่พักแนว Modern ตกแต่งออกสไตล์ Boutique บอกได้คำเดียวว่าเป็นสถานที่พักผ่อนอย่างแท้จริง ผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบท่ามกลางธรรมชาติอันน่าดื่มด่ำ แถมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน และกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ที่นี่ล้วนตอบโจทย์การเข้าพักทุกรูปแบบ
19. ปานวิมาน เชียงใหม่ รีสอร์ท
ปานวิมาน เชียงใหม่ สปา รีสอร์ทได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมหรูชั้นนำในจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ห่างจากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่ด้วยการเดินทางโดยรถยนต์เพียงไม่นาน เป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับการผ่อนคลายหลังจากการเดินทางที่เหน็ดเหนื่อย ห้องพักและห้องสวีททั้งหมดผสมผสานกันอย่างลงตัวของสถาปัตยกรรมล้านนาดั้งเดิมและความสะดวกสบายของโลกสมัยใหม่ ด้วยดีไซน์การตกแต่งรีสอร์ทที่มีความเป็นไทยล้านนาและผสมผสานความเป็นโมเดิร์นทันสมัย ทำให้ดูสวยงามมีความลงตัวเป็นอย่างมาก ภายในรีสอร์ทก็กว้างขวาง มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้ มองเห็นวิวทิวทัศน์ได้แบบเต็มตา ซึ่งถ้าคุณได้มาเข้าพักแล้วต้องประทับใจ แถมยังผ่อนคลาย และอยากมีบ้านสไตล์นี้แน่นอน เพราะมีธรรมชาติล้อมรอบมองเห็นทิวทัศน์และยังมีกลิ่นอายของความเป็นธรรมชาติ อยากกลับมาพักอีกรอบแน่นอน
20. ณ นิรันดร์ เชียงใหม่
ณ นิรันดร์ เชียงใหม่ สถานที่พักผ่อนอันมีเสน่ห์ใจกลางเชียงใหม่ มีเรื่องราวประวัติศาสตร์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ใจกลาง ณ นิรันดร์ มีต้นจามจุรี อายุกว่า 100 ปี ที่สูงตระหง่านสวยงามสร้างความตื่นตาตื่นใจ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวของความรักที่แท้จริงระหว่างสาวสืบเชื้อสายมาจากเจ้าเมืองลำพูนและสุภาพบุรุษกรุงเทพ ที่รอให้คุณได้มาสัมผัสและค้นพบความหมายที่แท้จริง ของ “รักนิรันดร์” ส่วนตัวโรงแรมได้รับสถาปัตยกรรมโคโลเนียล ที่มีผลกระทบต่อการออกแบบบ้านเรือนไทย การผสมผสานระหว่างศิลปะคลาสสิก และ ศิลปะจินตนิยม กับสถาปัตยกรรมล้านนาท้องถิ่น สะท้อนความอบอุ่นผ่านการตกแต่ง เรียบหรู เรียบง่าย สไตล์ล้านนาแท้ ๆ
นอกจากนี้สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียลได้เข้ามามีอิทธิพลสะท้อนผ่านงานตกแต่งดีไซน์ตัวอาคารและห้องพักในอารมณ์อบอุ่น เรียบง่าย ตามแบบฉบับล้านนา แต่ยังคงไว้ซึ่งความสง่างาม เหมาะแก่การพักผ่อนในวันสบาย ๆ เฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายทำมือจากสล่า มาตกแต่งเสริมด้วยศิลปะแบบบริติช-อินเดีย ดูกลมกลืนดูอลังการ เป็นสถานที่พักที่มีกิมมิคซ่อนไว้เต็มไปหมด มีความคลาสสิกและโรแมนติก ซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ริมแม่น้ำปิง เมื่อคุณมาเข้าพักแล้วบอกได้เลยว่าคุณต้องมีแพลนสร้างบ้านแนวนี้อย่างแน่นอน
จากตัวอย่าง CHECK IN 20 Hotel Classic style ต้องบอกเลยว่า มีโรงแรมหลากหลายสไตล์ให้คุณเลือกเช็กอินเข้าพัก ได้ลองพัก รวมทั้งได้ชมความงดงามของสถาปัตยกรรมและการตกแต่งแบบคลาสสิก โดยสถาปัตยกรรมของโรงแรมเด่น ๆ จะเป็นสถาปัตยกรรมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสไตล์โคโลเนียล ฝรั่งเศส โมร็อกโก และ Classic Style เพื่อให้เน้นความหรูหราคล้ายแบบ luxury มีความสวยงามอย่างลงตัว ทำให้คุณสามารถเลือกโรงแรมที่พักผ่อนในสไตล์ของคุณเองได้ง่ายจากบทความนี้